admin
11 months ago
การดำเนินการตามนโยบาย "อัตราดอกเบี้ย" ของธนาคารกลางสหรัฐในปี 2567 จะมีผลกระทบอย่างมากต่อภาคการเงินโลกอย่างไม่ต้องสงสัย ความไม่แน่นอนนี้ส่งผลให้หลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยตกอยู่ในความเสี่ยง จากสัญญาณที่ส่งมาจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ในเดือนธันวาคม 2566 ยังไม่มีความชัดเจนว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้หรือไม่ สมาชิกบางคนแย้งว่าการรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับสูงเป็นสิ่งจำเป็น หากไม่สามารถลดอัตราเงินเฟ้อตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ นอกจากนี้ยังมีคาดถึงความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ หากตัวแปรอื่นๆ ไม่เป็นไปตามคาด
นักวิเคราะห์ที่น่าเชื่อถือจำนวนมากได้ให้ข้อมูลว่า "อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ" อาจลดลงในช่วงไตรมาสที่กำลังจะมาถึงของปีนี้ จะนำความคึกคักมาสู่ตลาดหุ้นโลก และส่งเสริมสภาพแวดล้อมการลงทุนที่มีพลวัตมากขึ้น ในขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ก็มีแนวโน้มที่จะทำให้ "ทองคำ" และ "สกุลเงินดิจิทัล" ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนทั่วโลก
เจาะลึกการวิเคราะห์เชิงลึกจาก Krungsri Research Forecasts เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยและความเกี่ยวข้องกับอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อ "อัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศไทย" คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะมีความผันผวนในปี 2567 เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไป และต้นทุนการผลิตที่คาดว่าจะสูงขึ้น รวมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของไทยปรับตัวสูงขึ้นจาก 1.3% ในปี 2566 เป็น 2% ในปี 2567 ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีแนวทางในการจัดการอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างระมัดระวัง คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 2.5 ตลอดทั้งปี เพื่อให้มั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในกรอบที่ต้องการ และอำนวยความสะดวกในการกลับคืนสู่เส้นทางการเติบโตที่ยั่งยืนของเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ยังช่วยให้นโยบายมีความยืดหยุ่นเพียงพอในการจัดการกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
กระทรวงพาณิชย์พบว่าประเทศไทยมีอัตราเงินเฟ้อต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเดือนพฤศจิกายน 2566 ซึ่งหมายความว่าราคาสิ่งของไม่ได้ขึ้นมากนัก ประเทศไทยอยู่อันดับ 5 ของโลกที่มีอัตราเงินเฟ้อติดลบ 0.44% แม้ว่าเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะดีขึ้นในปี 2567 แต่ก็ยังไม่เติบโตมากเท่ากับประเทศอื่นๆ ในพื้นที่เดียวกัน โดยคาดว่าจะขยายตัวที่ 3.4% จาก 2.5 %ในปี 2566 กองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มอาเซียน 5 จะเติบโตมากกว่าประเทศไทยโดยจะเติบโตที่ 4.5% ในปี 2567 จาก 4.2% ในปี 2566
ที่มา: วิจัยกรุงศรี และ Thairath Money.
Information and statistics for This Post Provided by Yoohoo Homes.